1. หาทำเล

เริ่มตั้งแต่เรื่องทำเลอยากให้ลูกค้าทำการบ้านให้หนักนิดนึงค่ะ  คอยดูว่าแถวนั้นมีรถผ่านเยอะไหม มีช่างตั้งรกรากอยู่แถวนั้นบ้างหรือป่าว มีการก่อสร้างใหม่ๆไหม มีชุมชน หมู่บ้าน ตลาด และมีคู่แข่งเยอะน้อยเพียงใด มีที่จอดรถไหมจอดรถได้ยากง่ายแค่ไหน เนื่องจากสินค้าในกลุ่มฮาร์ดแวร์จะป็นเแบบใกล้ที่ไหนซื้อที่นั่น ต้องมีคนอาศัยอยู่มากๆ ถ้าทำเลดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ถ้าไม่ก็ลองชั่งน้ำหนักดูก่อนว่ามีเปอร์เซ็นต์จะไปได้หรือไม่

2. งบประมาณ

ในการเปิดร้านฮาร์ดแวร์ลูกค้าต้องแบ่งเงินเป็น 3 ส่วน โดยในแต่ละส่วนควรจะแบ่งเงินเหมาะสม ตามสัดส่วน 

ส่วนแรก คือ เงินทุนในส่วนของการ ซื้อตึก เช่าร้าน ทำร้าน ทำสี ตกแต่ง เดินน้ำไฟ รวมถึงชั้นวางสินค้า ในส่วนนี้ควรระวังอย่าให้มากจนเกินไป ไม่ควรเกิน 1 ใน 5 ของเงินลงทุนทั้งหมด

ส่วนที่ 2 ส่วนของสินค้าซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่สุดของร้านฮาร์ดแวร์ก่อสร้าง เนื่องจากสินค้าในกลุ่มฮาร์ดแวร์ก่อสร้างจะมีรายการเป็นจำนวนมาก หากไม่รอบคอบในการเลือกสินค้าก็จะทำให้งบบานปลายได้ งบประมาณจะขึ้นอยู่กับ ขนาดของร้าน เกรดของสินค้า การ สต็อกสินค้า และความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ในกรณีที่ร้านเป็นตึก 1 คูหา ส่วนมากจะอยู่ประมาณ 300,000-500,000 บาทค่ะ

ส่วนที่ 3 สำหรับเป็นทุนหมุนเวียนต่อเนื่องเพื่อรองรับการดำเนินกิจการ การเติมสินค้า ยิ่งมีทุนมากก็ทำให้ขายได้มาก กำไรก็มากขึ้นตามไปด้วย

ในส่วนของโยจิงบประมาณในการลงทุน ไม่มีขั้นต่ำนะคะ โดยลูกค้าสามารถแจ้งงบประมาณล่วงหน้ากับทางโยจิก่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าค่ะ

 3. ออกแบบร้าน

รูปแบบการจัดร้านสามารถทำได้หลายแบบ บางร้านอาจจะเป็นแบบเปิดให้ผู้ซื้อเดินเลือกของเอง หรือเป็นแบบที่เราเป็นคนหยิบของให้ผู้ซื้อก็แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ขอให้คำนึงถึงการวางแปลนร้านให้ได้พื้นที่ใช้สอยมากที่สุดเหมาะสมกับสินค้าในแบบต่างๆกัน การจัดวางสินค้าสิ่งที่ควรคำนึงถึงคือ สินค้าบางประเภทเป็นสินค้าที่ไม่ควรโดนแดด สินค้ามีอายุ ความชื้น สินค้าแตกหักง่ายควรจัดวางให้เหมาะสม และจัดเป็นหมวดหมู่ เช่น ใส่ตู้กระจก ชั้นวางท่อ ชั้นวางสินค้าหนัก การทำชั้นวางมีทั้งการใช้เหล็กฉากประกอบ ชั้นเหล็กกล่อง หรือชั้นวางสำเร็จรูป (โทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ค่ะ) เพราะสินค้ามีเป็นจำนวนมากถ้าจัดวางแล้วยากต่อการค้นหาก็จะพลาดโอกาสในการขายสินค้าไปด้วย ส่วนภายนอกของร้านควรทำป้ายให้เห็นเด่นชัด เนื่องจากเราเป็นร้านใหม่กว่าจะเป็นที่รู้จักก็ต้องอาศัยการติดป้ายโฆษณาร้าน ให้ผู้ซื้อเห็นเด่นชัด

4. เลือกสินค้า

ลูกค้าสามารถศึกษารายการสินค้าที่ต้องการนำเข้าร้านคร่าวๆ ก่อนระหว่างรอร้านเสร็จ ในการเลือกซื้อสินค้าก็ต้องมองหาตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้ ศึกษาประวัติร้านค้า ซื่อตรง ไม่ยัดสินค้า มั่นใจว่าจ่ายเงินแล้วได้รับสินค้าแน่นอน มีสินค้าครบวงจร เพื่อให้ง่ายในการจัดงบประมาณ และการสั่งซื้อ

สำหรับทางโยจิจะมีไฟล์รายการสินค้าให้ลูกค้าได้เลือก ซึ่งจะแบ่งเป็นหมวดต่างๆ ได้แก่ เครื่องมือช่าง  วัสดุสิ้นเปลือง สายไฟ อุปกรณ์ไฟฟ้า ท่อพีวีซี อุปกรณ์ประปา วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง สี ทินเนอร์ น็อต เครื่องมือไฟฟ้า เกษตร เคมีภัณฑ์ พร้อมแจ้งราคา และจำนวนบรรจุทำให้ลูกค้าสามารถเปิดเป็นร้านฮาร์ดแวร์ก่อสร้างได้ครบวงจร ไม่ใช่มีเพียงแค่สินค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งในไฟล์รายการจะแจกแจงให้แล้วว่า สินค้าแต่ละตัว มีการบรรจุ ลังละกี่ตัว ส่วนลดเท่าไร มีโปรโมชั่นอะไร เพื่อให้ลูกค้าเปรียบเทียบราคากับเจ้าอื่นก่อนสั่งซื้อได้เลย ขั้นตอนเพียงแค่กรอกจำนวนของสินค้าตามงบประมาณที่ต้องการ โดยคำนึงถึงทำเลของร้าน ต้องการเน้นสินค้าประเภทไหน เกรดใดเพื่อให้เหมาะกับคนในพื้นที่นั้นๆ และเมื่อลูกค้ากรอกจำนวนสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อในไฟล์รายการสินค้าเสร็จแล้ว ส่งอีเมล์ หรือไลน์ กลับมาที่โยจิ หรือโทรสั่งที่เซลส์ออฟฟิตตามแต่ลูกค้าสะดวก แล้วทางโยจิจะทำการสรุปราคาสินค้าทั้งหมดเป็นงบประมาณคร่าวๆกลับไปให้ โดยราคาที่ทำให้จะเป็นราคาขายส่ง  หรือหากในขั้นตอนการเลือกสินค้านี้ ลูกค้าไม่สามารถเลือกสินค้าได้จริงๆ ทางโยจิจะมีบริการการเลือกรายการที่เป็นสินค้าเบื้องต้นที่ร้านฮาร์ดแวร์ต้องมี สินค้าขายบ่อย ขายง่ายและขายเร็ว ที่นิยม และไม่จมทุนเพื่อช่วยลูกค้าอีกทีค่ะ ซึ่งลูกค้าสามารถปรับเพิ่มลดรายการสินค้าได้ตามต้องการ และไม่ได้คิดค่าบริการเพิ่มค่ะ

5. ตั้งราคาขาย และระบบขายหน้าร้าน

ข้อดีของสินค้าฮาร์ดแวร์ก่อสร้างคือเป็นกลุ่มสินค้าที่ถัวเฉลี่ยแล้วมีกำไรค่อนข้างสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าสินค้าทุกตัวทำกำไรสูง โดยสินค้าในแต่ละหมวดจะมีมาตรฐานในการตั้งราคาขาย แตกต่างกันออกไปบางหมวดบวกกำไรได้มาก บางหมวดบวกกำไรได้น้อย ซึ่งการตั้งราคาขายปลีกที่ผิดก็จะมีผลกระทบต่อการขายแน่นอนจะมีเทคนิคที่ดูเหมือนง่ายแต่ยากมาก คือ แนะนำให้ไปดูจากร้านคู่แข่งหรือในย่านนั้น ว่าขายกันเท่าไร ก็ตั้งราคาขายได้เลย ที่บอกว่ายากเพราะว่าสินค้ากลุ่มนี้มีจำนวนรายการเยอะมาก ซึ่งเป็นอีกส่วนที่ลูกค้าต้องทำการบ้านอย่างหนัก ถ้าลูกค้าต้องการความช่วยเหลือในส่วนนี้ลูกค้าสามารถสอบถามทางโยจิได้ ทางโยจิจะมีเทคนิคการตั้งราคาพร้อม ราคาขายปลีกแนะนำให้ลูกค้าโดยไม่ได้คิดค่าบริการ หรือหากต้องการใช้เป็นระบบแม่ค้าขายของหน้าร้าน คิดเงินหน้าร้าน แคชเชียร์ขายหน้าร้าน เก็บสต็อกสินค้า รายงานยอดขายและกำไร ทางโยจิก็มีบริการเช่นกันค่ะ ซึ่งตรงนี้ทางโยจิเองได้คิดเผื่อสำหรับใช้ในร้านฮาร์ดแวร์ หรือร้านวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะ และจะมีราคาปลีกมาให้เลย เพื่อง่ายในการบริหารจัดการมากขึ้นค่ะ

6. การบริหารร้าน และการจัดการสินค้า

ส่วนการจัดการสินค้าก็ต้องมาดู เรื่องการเติมสินค้า ฟังความต้องการของลูกค้าที่มาซื้อของเพิ่มว่าต้องการให้มีอะไรเข้ามาขายอีกไหม หมั่นเช็คสต๊อกสินค้าว่ารายการใดใกล้หมดต้องเตรียมสั่ง และต้องเติมสินค้าสต๊อกสินค้าให้เพียงพอต่อการขายโดยไม่มากหรือน้อยเกินไป หรือหากใช้เป็นระบบแม่ค้าขายของหน้าร้านก็จะมีส่วนของรายงานสินค้าใกล้หมดแจ้ง เพื่อให้เตรียมการสั่งสินค้าให้ทัน โดยเฉพาะลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัด จะมีระยะเวลาการจัดส่งที่ต้องขึ้นกับบริษัทขนส่งเอกชนนั้นๆด้วย โดยโยจิจัดส่งให้ไปให้ที่บริษัทขนส่งเอกชนฟรี ซึ่งจะมีรอบรถขนส่งทุกวัน จันทร์ - เสาร์ แล้วจากบริษัทขนส่งเอกชนไปร้านลูกค้าจะเก็บค่าขนส่งปลายทาง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกบริษัทขนส่งได้ตามสะดวก หรือถ้าไม่มีโยจิก็จะมีแนะนำให้ค่ะ กรณีลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑลทางโยจิจะมีรอบรถส่งสินค้าให้ถึงร้านลูกค้าฟรีค่ะ ที่ขาดไม่ได้อีกเรื่องคือ การบริการซึ่งถือเป็นหัวใจหลักในการเปิดร้านเช่นกัน การรับเปลี่ยนเคลมคืนสินค้า และการหาความรู้ใหม่ๆเพื่อนำมาแนะนำสินค้าให้ลูกค้าได้

7.เทคนิคการขาย

เทคนิคการขายจริงๆแล้วมีหลายวิธี เริ่มจากการสังเกตุผู้ซื้อ กลุ่มของผู้ซื้อจะมีหลายแบบ เช่น ผู้รับเหมา เจ้าของบ้าน เด็กนักเรียน หากเป็นผู้ซื้อที่เป็นผู้รับเหมาเค้าจะซื้อของมีจำนวน และต่อเนื่องอาจจะขายให้ถูกลง หรือให้มีการสะสมแต้มยอดซื้อเพื่อแลกของรางวัล แต่การขายผู้ซื้อกลุ่มนี้ก็จะต้องระวังเรื่องเครดิตให้มากตามไปด้วย หรือหากผู้ซื้อเดินมาในร้านเพื่อซื้อฝักบัวอาบน้ำ 1อัน เราก็ควรถามผู้ซื้อว่า มีเทปพันเกลียวหรือยัง? ช่วยเหลือแนะนำเพื่อเป็นการสร้างความเป็นกันเองกับผู้ซื้อ และต้องหมั่นหาความรู้เกี่ยวกับสินค้าตลอดเวลา เพราะผู้ซื้อมาหาของบางทีเขาเรียกไม่ถูก หรือไม่ก็หยิบตัวอย่างมาเราก็ต้องรู้ทันทีว่ามันคืออะไร ใช้แทนอะไรได้บ้าง ต้องใช้ร่วมกับอะไร สินค้าฮาร์ดแวร์มีมากมายหลายชนิดมากใหม่ๆ ก็จะจำไม่ได้ และไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร ก็อาจจะทำให้พลาดโอกาสในการขายสินค้าได้ สำหรับมือใหม่หัดขายก็สามารถให้ทางโยจิ เป็นพี่เลี้ยงได้คอยให้คำแนะนำได้ตลอดค่ะ

8. ขยายกิจการและการคืนทุน

การทำธุรกิจทุกรูปแบบมีความเสี่ยง ต้องมีการบริหารจัดการที่ดีถึงจะทำให้ธุรกิจนั้นๆ สามารถไปต่อได้ การเปิดร้านฮาร์ดแวร์ก่อสร้างก็ถือเป็นการทำธุรกิจแบบหนึ่ง ต้องเอาใจใส่ จริงจัง ขยันเรียนรู้สิ่งใหม่ รอบคอบกับการปล่อยเครดิต ร้านฮาร์ดแวร์ก่อสร้างที่มาปรึกษา เรายึดหลักทุกร้านที่เราให้คำแนะนำ เราทำเหมือนเป็นร้านของเราเอง และต้องไปต่อได้ ปิดช่องความเสี่ยงที่จะจมทุน เมื่อเริ่มเปิดร้านพอเริ่มขายได้ก็มักจะนำกำไรไปลงของเพิ่มขึ้นเพื่อขยับขยายให้ร้านใหญ่ขึ้น มีสินค้าขายเพิ่มขึ้นไปอีก การคืนทุนจึงเป็นคำว่าการขยายกิจการใหญ่ขึ้นมากไปอีกมากกว่า หรือหากคำนวณเป็นระยะเวลาจะอยู่ประมาณ 3ปี